train to busan คือหนังซอมบี้ ของเกาหลี ที่ทำรายได้สูงที่สุดในประเทศไทย

train to busan ภาพยนตร์แนวแอคชั่น สยองขวัญ สัญชาติเกาหลี ที่เปี่ยมล้นด้วยคุณภาพทั้งด้านบท และการแสดง
train to busan คือภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราว เกี่ยวกับเชื้อไวรัส ที่เปลี่ยนให้คน กลายเป็นซอมบี้ ซึ่งก็ได้รับการดัดแปลง มาจาก อนิเมชั่นดังอย่าง Seoul Station ที่เคยสร้างปรากฎการณ์ในแง่ของรายได้ ในประเทศเกาหลีมาแล้ว ซึ่งวิธีการนำเอาซอมบี้ มาใช้เป็นตัวดำเนินเรื่องนั้น นับได้ว่าเป็นโครงเรื่อง ที่ได้รับความนิยม และถูกใจ แก่กลุ่มคนดูอย่างสูง เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์แนวไหน ขอเพียงแค่เกี่ยวข้องกับซอมบี้ ก็ล้วนแล้วแต่ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งสิ้น แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ภาพยนตร์แนวซอมบี้นี้ ที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ก็มักจะถูกสร้าง โดยฝั่งของฮอลลีวูดมากกว่า
ซึ่งก็มีหลาย ๆ เรื่อง ที่โด่งดัง จนสามารถสร้างเป็นภาคต่อได้ อย่างหลายภาค และโด่งดัง จนถูกสร้างให้กลายเป็นเกมส์ ที่เกี่ยวกับซอมบี้ ออกมาด้วยซ้ำ อย่างเช่นภาพยนตร์ชุด เรื่อง resident evil ที่ทำออกมากี่ภาค ต่อกี่ภาค ก็ได้รับความนิยมอยู่เสมอมา
หรือจะเป็นภาพยนตร์อย่าง WORLD WAR Z หรือ ZOMBIELAND ที่กำลังจะสร้างภาคต่อออกมา ก็ได้รับความนิยม เป็นอย่างสูงเช่นเดียวกัน แต่สำหรับการนำเสนอมุมมองของซอมบี้ ในภาพยนตร์เรื่อง train to busan นั้น ที่อาจจะไม่ใช่พล็อตเรื่องที่ใหม่ สำหรับในต่างประเทศแล้ว
แต่นับว่าเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับเกาหลี ซึ่งรูปแบบการนำเสนอ ของตัวซอมบี้ในมุมมอง ของชาวเกาหลี ที่มีทั้งรูปลักษณ์ และความสามารถ ที่แตกต่างจากของฝั่งฮอลลีวูด อยู่มากพอสมควร
ซึ่งโครงเรื่องนั้น ก็จะเล่าเรื่อง ของการพยายามเอาชีวิตรอด จากการระบาดของเชื้อไวรัส ที่กำลังเกิดขึ้นในเกาหลีใต้เป็นหลัก โดยได้ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ระดับประเทศ อย่าง ยอน ซังโฮ ที่เคยมีผลงานคุณภาพดัง ๆ หลายเรื่อง อย่างภาพยนตร์เรื่อง The King of Pigs และ The fake
ที่เคยได้รับรางวัล จากงานเทศกาลภาพยนตร์ เมืองปูซานมาแล้ว นอกจากนี้แล้ว การนำเสนอแนวคิดของ train to busan นั้น ก็ได้แนวคิดมาจากเหตุการณ์ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต อย่างเหตุการณ์การแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัส Mers
ที่เคยเกิดขึ้น ในประเทศเกาหลีนั้นเอง นอกจากนี้ยังได้นักแสดงดัง อย่าง กง ยู ที่กลับมารับแสดงอีกครั้ง ในรอบสามปี และยังได้นักแสดงอย่าง มา ดงซอก และ จอง ยูมี มาร่วมแสดงอีกด้วย
เรื่องราวจะเล่าถึง ซอกวู ผู้จัดการกองทุนหนุ่ม ผู้บ้างาน จนทำให้ชีวิตคู่ของเขานั้น ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหลังจากที่หย่าร้างจากภรรยาแล้ว เขาก็ได้มาอาศัยอยู่กับแม่ และซอซูอัน ลูกสาวของเขา ในกรุงโซล
และเนื่องจากการที่ ซอกวู เป็นคนที่มีนิสัย บ้างาน จึงทำให้เขาละเลย ในความใส่ใจ ที่ควรจะมีให้กับลูกสาวเป็นอย่างมาก ในวันเกิดของ ซอซูอัน เธอจึงได้ขอให้พาเธอ กลับไปเยี่ยมแม่ ที่ปูซาน ซึ่งพวกเขา ก็ได้เลือกที่จะขึ้นรถไฟความเร็วสูง KTX
เพื่อใช้ในการเดินทาง จากโซลไปยังปูซาน แต่ในระหว่างที่กำลังเดินทาง อยู่ในรถไฟฟ้านั้น ก็เกิดเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะเกิดการระบาด ของซอมบี้ขึ้นในเกาหลี ซึ่งก็ได้มีผู้โดยสาร ที่ติดเชื้อคนหนึ่ง ขึ้นมาอยู่ในรถไฟด้วยเช่นกัน และก็ได้เข้ามาโจมตี พนักงานรถไฟ
ซึ่งนั้นก็ทำให้ทั้งผู้โดยสาร และพนักงาน ต้องต่อสู้ เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดให้ได้ อย่างสุดความสามารถ แต่ถึงอย่างไร หลังจากนั้นผู้โดยสารเกือบทั้งหมด ก็กลายมาเป็นซอมบี้ เหลือเพียงผู้รอดชีวิต ภายในรถไฟเพียงไม่กี่คน พร้อมกับความหวังเล็ก ๆ ที่หวังให้เกิดขึ้นในปลายสาย ของรถไฟขบวนนี้
train to busan ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ สำหรับการทำหนังแนวซอมบี้ ที่สร้างขึ้นโดยประเทศเกาหลี หลังจากที่ก่อนหน้านี้นั้น จะไม่ค่อยมีแนวนี้มากนัก
โดยส่วนใหญ่แล้ว ภาพยนตร์ของเกาหลี ที่โด่งดัง และได้รับความนิยม ในประเทศไทย และต่างประเทศ จะเป็นภาพยนตร์ แนวดราม่า หรือโรแมนติก เสียมากกว่า เนื่องด้วยฐานนิยม ในเรื่องของซอมบี้ ที่คนต่างประเทศนั้น จะมีความนิยมมากกว่า
และด้วยของด้านโปรดักชั่น ที่ต้องใช้งบประมาณที่สูงมาก จึงทำให้หนังแนวนี้ ไม่ค่อยเป็นที่นิยม สำหรับผู้สร้างภาพยนตร์ ที่ไม่ใช่ฮอลลีวูดมากนัก เพราะมักจะทำรายได้ ได้ไม่เท่ากับงบประมาณ ที่ลงทุนลงไป หากฉายได้เพียงแค่ในประเทศ
ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ กลายเป็นกระแส ทั้งใน และต่างประเทศเลย ก็คือวัฒนธรรมของซอมบี้ ที่มีรูปแบบแตกต่าง จากของฝั่งอเมริกา ค่อนข้างมาก จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง
ทั้งในแง่ของคำวิจารณ์ และรายได้ที่ได้รับ ที่สามารถทำรายได้ทั่วโลก ได้สูงถึง แปดสิบเจ็ด ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนการสร้าง เพียงแค่สิบล้านวอนเท่านั้น ซึ่งจากความสำเร็จนี้เอง จึงทำให้มีค่ายสร้างภาพยนตร์ทั้ง 20 Century Fox และ Sony Pictures ที่ได้ทำการติดต่อซื้อลิขสิทธ์
เพื่อนำมาสร้างใหม่ตามแบบฉบับของฮอลลีวูด เรียบร้อยแล้ว โดยอีกจุดเด่น ๆ ที่นำเสนอออกมา ได้เป็นอย่างดีเลย ก็คือการทำฉากแอคชั่น และสเปเชี่ยลเอฟเฟค ของตัวซอมบี้ ที่ผสมผสานระหว่างการใช้ CG และเมคอัพ เข้าไว้ด้วยกันจนเนียนตา
และก็ยังเป็นอีกครั้ง ที่ภาพยนตร์แนวซอมบี้อย่างนี้ ไม่ได้มีดี เพียงแค่การนำเสนอเรื่องราว ความน่ากลัวของซอมบี้ ในแง่การไล่ล่า เพียงแค่อย่างเดียว แต่ตัวหนังยังมีส่วนผสม ถึงการนำเสนอเรื่องศีลธรรม ในตัวของมนุษย์ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กดดัน และคับขันอยู่ด้วยเช่นกัน
โดยให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กับการดูซีรีย์ซอมบี้ชื่อดัง อย่าง the walking dead อยู่กลาย ๆ โดยใช้การนำเสนอ ผ่านตัวละครหลาย ๆ ตัว ที่ต่างก็มีลักษณ์ นิสัยที่แตกต่างกัน แต่จำเป็นต้องมีร่วมมือกัน
เพื่อให้สามารถบรรลุ ไปสู่เป้าหมายได้ โดยนำเสนอเรื่องของการเอาตัวรอด และความเห็นแก่ตัวของคนเป็นหลัก จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้มีจุดเด่น อยู่ที่แค่การต่อสู้ และหนีซอมบี้เพียงอย่างเดียว
โดยมีการนำใช้เรื่องของความสัมพันธ์ ระหว่างพ่อกับลูก เข้ามาร่วมทำให้หนังน่าสนใจมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งการนำเสนอเรื่องของความสามารถของเหล่าตัวละครต่าง ๆ ก็ให้ความรู้สึกที่สมจริง Logan
และไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่สูงเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาเลย ทั้ง ๆ ที่ตัวหนังจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งที่แปลกประหลาด และเหนือความคาดหมายในชีวิตจริง อย่างซอมบี้ก็ตาม บาคาร่าขั้นต่ำ 10 บาท